“กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด โชว์ฟอร์มฮอตเมื่อเปิดบ้านพลิกแซง “ค้างคาวไฟ” สุโขทัย เอฟซี ไปอย่างสุดมันส์ 4-3 โดยเจ้าถิ่นได้ประตูจากแฮตทริกของ เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส นาทีที่ 33, 45 และทดเจ็บครึ่งแรก ก่อนที่ อดิศร พรมรักษ์ จะโขกประตูชัยช่วงทดเจ็บครึ่งหลัง พาต้นสังกัดเก็บ 3 คะแนนได้สำเร็จ ในศึกฟุตบอล โตโยต้า ไทยลีก 2018 ประจำสัปดาห์ที่ 16 ที่สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา
เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 4 – 3 สุโขทัย เอฟซี
การแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก 2018 ประจำวันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม 2561
สนาม : เอสซีจี สเตเดี้ยม
ผู้ชม : 7,592 คน
ศึกฟุตบอล โตโยต้า ไทยลีก 2018 ประจำสัปดาห์ที่ 16 ที่สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม เป็นการดวลกันระหว่างเจ้าถิ่น “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 8 ของตาราง เปิดบ้านพบกับ สุโขทัย เอฟซี ทีมอันดับ 10 ของตาราง โดยผลงานล่าสุดในลีกของทั้งสองทีม ทางฝั่งเจ้าถิ่นเอา ชัยนาท ฮอร์นบิล 2-0 ขณะที่ทีมเยือน “ค้างคาวไฟ” เปิดบ้านพ่าย ทรู แบงค็อกฯ 1-4 ส่วนผลการแข่งขันที่สนามแห่งนี้ ฤดูกาลที่แล้วปรากฏว่า “กิเลนผยอง” เฉือนชนะ 1-0
ทางด้านการจัดทัพของฝั่งเจ้าบ้าน “กิเลนผยอง” ภายใต้การคุมทัพของ ราโดวาน เคอร์ซิช ส่งผู้เล่นตัวจริงมี ประสิทธิ์ ผดุงโชค ลงเฝ้าเสา แผงแนวรับวาง พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, นาโออากิ อาโอยามะ, อดิศร พรมรักษ์ และ วัฒนา พลายนุ่ม มิดฟิลด์ส่ง สารัช อยู่เย็น, ชาริล ชัปปุยส์ และ ศนุกรานต์ ถิ่นจอม สร้างสรรค์เกม ส่วนแนวรุกเป็น เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส, สรวิทย์ พานทอง และ ทริสตอง โด ลงล่าตาข่าย
เริ่มเกมมาได้ 3 นาทีแรก ทีมเยือน สุโขทัยฯ ได้ทักทายก่อนเมื่อ เอ็นจีว่า กระชากบอลก่อนสับไกยิงหน้าเขตโทษ บอลพุ่งแรงหลุดเสาแรกออกไปอย่างได้ลุ้น
นาทีที่ 18 เป็นทางทีมเยือน สุโขทัยฯ ที่ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะเตะมุมทางฝั่งซ้าย ทริสตอง โด กระโดดขึ้นโหม่ง บอลลอยโด่งเสียบใต้คานเข้าประตูตัวเอง
ทีมเยือน สุโขทัยฯ มาบวกประตูเพิ่ม 2-0 นาทีที่ 21 จากจังหวะสวนกลับเร็ว เอ็นจีว่า ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษ ก่อนยิงด้วยขวาผ่านมือ ประสิทธิ์ ผดุงโชค เข้าประตูไป
เจ้าบ้านตั้งเกมบุกขึ้นมาใหม่ นาทีที่ 27 ได้ลุ้นประตูตีไข่แตกเมื่อ ทริสตอง โด แตะบอลให้ สรวิทย์ พานทอง วิ่งมายิงด้วยขวาในกรอบเขตโทษ แต่บอลยังหลุดเสาแรกออกไป
นาทีที่ 33 เจ้าถิ่น เอสซีจี เมืองทองฯ มาได้ประตูไล่มาเป็น 1-2 เมื่อมาได้ลูกที่จุดโทษแล้วเป็น เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส ที่รับหน้าที่สังหาร บอลพุ่งผ่านมือ กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ เสียบเสาเข้าไป
นาทีถัดมาทีมเยือน สุโขทัยฯ ได้ประตูนำ 3-1 จากจังหวะบอลชุลมุนในกรอบเขตโทษ บอลเลยมาถึง จอห์น บาจโจ้ วิ่งมาโขกโล่งๆ บอลเข้าประตูไป
นาทีที่ 45 เอสซีจี เมืองทองฯ ได้ประตูไล่มาเป็น 2-3 จากจังหวะตัดบอลได้ในเขตของ ทริสตอง โด ก่อนไหลคืนให้ เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส แปด้วยซ้ายบอลพุ่งตุงตาข่าย
ช่วงทดเจ็บเจ้าถิ่น เอสซีจี เมืองทองฯ ได้ประตูตีเสมอเป็น 3-3 จากจังหวะที่ เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส ได้สับไกยิงในเขตโทษ บอลพุ่งแฉลบแนวรับทีมเยือนเข้าไป และเป็นแฮตทริกของเจ้าตัวในนัดนี้
กลับมาดวลกันต่อในครึ่งหลัง นาทีที่ 48 เอสซีจี เมืองทองฯ เกือบได้ประตูพลิกขึ้นนำ จากจังหวะกระชากบอลของ ชาช่า ตัวสำรอง ก่อนสับไกไปติดเซฟ กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ ออกหลังหวุดหวิด
โอกาสลุ้นอีกครั้งของเจ้าถิ่น นาทีที่ 61 จากจังหวะทำชิ่งเร็วของ เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส มาให้ ชาช่า หลุดเข้าเขตโทษ ก่อนสับไกยิงด้วยขวา แต่บอลยังพุ่งติดบล็อกแนวรับทีมเยือน
นาทีที่ 68 เจ้าถิ่น เอสซีจี เมืองทองฯ ได้ลุ้นอีกหนเมื่อ ชาช่า กระชากบอลเข้าเขตโทษ ก่อนปั่นโค้งด้วยซ้าย บอลพุ่งจะเสียบเสาอยู่แล้วแต่ กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ ยังพุ่งปัดทิ้งออกหลังได้ทัน
“กิเลนผยอง” น่าได้ประตูพลิกขึ้นนำ 4-3 นาทีที่ 75 จากจังหวะหลุดเดี่ยวของ ทริสตอง โด ก่อนยิงด้วยขวาเต็มข้อ บอลพุ่งชนเสาออกมาอย่างน่าเสียดาย
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ “กิเลนผยอง” มาได้ประตูพลิกแซง 4-3 จากบอลโยนเข้าเขตโทษของ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา แล้วเป็น อดิศร พรมรักษ์ ได้เทกขึ้นโขก บอลเสียบใต้คานเข้าไป ก่อนจบเกมด้วยสกอร์นี้
รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด : ประสิทธิ์ ผดุงโชค (GK), พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, นาโออากิ อาโอยามะ, อดิศร พรมรักษ์, วัฒนา พลายนุ่ม, ชาริล ชัปปุยส์, สารัช อยู่เย็น (ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร น.72), ศนุกรานต์ ถิ่นจอม (พีรพงศ์ ปัญญานุมาภรณ์ น.79), สรวิทย์ พานทอง (แจ็คสัน โคเอลโญ่ น.46), ทริสตอง โด, เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส
ใบเหลือง : นาโออากิ อาโอยามะ, ชาริล ชัปปุยส์
สุโขทัย เอฟซี : กิตติคุณ แจ่มสุวรรณ (อนิรุต นัยนา น.86) (GK), นวพล ตันตระเสนีย์, ชมพู แสงโพธิ์, นรงฤทธิ์ บุญสุข, เอกสิทธิ์ ฉาวบุตร, ก้องนธีชัย บุญมา, จุง เมียงโฮ, บวร ตาปลา (สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ น.69), เอ็นจิว่า, จอห์น บาจโจ้, เนลสัน โบนิญ่า (ปรัชญ์ สมัคราษฏร์ น.90)
ใบเหลือง : จุง เมียงโฮ, บวร ตาปลา, เอกสิทธิ์ ฉาวบุตร
ผู้ตัดสิน : อนุสรณ์ หนูแก้ว
|